เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายระพีพัฒน์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมผู้ประกอบการล้งลำไยใน จ.จันทบุรี เพื่อหารือถึงกติกาในการทำงานและการรับซื้อลำไยจันทบุรี ที่กำลังจะออกสู่ตลาดจำนวนมากในปีนี้ โดยมี ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา นำภาคเอกชนในพื้นที่เข้าร่วม
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เน้นย้ำให้เกษตรกรชาวสวนลำไย และทุเรียน รวมถึงผลไม้อื่นๆ ในพื้นที่ต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และให้ความสำคัญในการดูแลผลผลิตไม่ให้มีเพลี้ยแป้งราดำ หรือเชื้อโรคอื่นๆ ปะปนไปกับผลไม้
“คนงานและทุกกระบวนการในการส่งผลผลิตลำไย และผลไม้ต่างๆ ออกขายในต่างประเทศจะต้องให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันไม่ให้มีเชื้อโควิด-19 ปะปนไปกับผลผลิต ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาเรื่องการส่งออกทุเรียน”
ส่วนตัวแทนผู้ประกอบการล้งได้เสนอปัญหาต่อที่ประชุมโดยขอร้องให้ภาครัฐเข้มงวดในการกำกับดูแลชาวสวนป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเพลี้ยแป้งราดำ เพราะเมื่อเก็บลำไยส่งล้งแล้วกระบวนการคัดแยกทำได้ยาก ดังนั้น หากจะให้เกิดผลดีที่สุดคือจะต้องเข้มงวดตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง คือระหว่างการเก็บผลผลิตจากสวน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี พบว่า จ.จันทบุรี มีพื้นที่ปลูกลำไยเป็นจำนวนมาก และคาดว่าปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในปีนี้น่าจะไม่น้อยกว่า 300,000 ตัน ขณะที่ช่วงเดือน ส.ค.จะเป็นช่วงที่ผลผลิตเริ่มออก และจะมีมากที่สุดในเดือน พ.ย.-ธ.ค.
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล
mgronline
#ข่าวเกษตร#เกษตรนิวส์#เกษตรอินทรีย์#ลำไย