ข้าวเบายอดม่วง เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของ จ.ตรัง ที่นิยมปลูกกันในพื้นที่ ต.วังคีรี อ.ห้วยยอด เป็นพันธุ์ข้าวที่เกิดจากข้าวต่างชนิดกัน โดยปลูกข้าวเหนียวในแปลงนาติดชิดกับแปลงนาปลูกข้าวเจ้า เพื่อให้เกสรถูกลมพัดปลิวมาผสมข้ามพันธุ์ ด้วยมีเจตนาต้องการให้ข้าวเจ้าจะได้ตั้งท้องออกรวงดี ตามวิถีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น และการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเหนียวกับข้าวเจ้า เลยทำให้เกิดมาเป็นข้าวเบายอดม่วง ที่นำเมล็ดพันธุ์มาปลูกต่อๆ กันมาถึงทุกวันนี้
น.ส.ทัศนีย์ สุขสนาน เกษตรกรรุ่นใหม่วัย 37 ปี กรรมการกลุ่มนาแปลงใหญ่ ต.นาวง อ.ห้วยยอด บอกถึงที่มาของข้าวเบายอดม่วง ที่ทางจังหวัดกำลังส่งเสริมให้ขยายพื้นที่เพาะปลูกให้มากขึ้นเพื่อผลักดันให้เป็นสินค้า GI ของจังหวัด สร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร
ด้วยเป็นพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะเด่น ในหนึ่งกอเมล็ดข้าวเปลือกจะมีหลายสี แรกเริ่มสีเขียว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวจะมีสีม่วงคล้ายสียอดมะม่วง อันเป็นที่มาของชื่อข้าวพันธุ์นี้
“แต่เดิมข้าวพันธุ์นี้จะปลูกเก็บไว้หุงให้ผู้สูงอายุรับประทาน เพราะหุงออกมาแล้ว จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ นิ่มและนุ่ม หนุบหนับ คล้ายข้าวเหนียว จนชาวบ้านเรียกว่า ข้าวเจ้าเหนียว กินแล้วไม่ค่อยติดคอ จึงเหมาะกับผู้สูงอายุมาก ส่วนคนหนุ่มสาวนั้นจะกินข้าวแข็ง ข้าวเล็บนกเป็นหลัก เลยทำให้ก่อนหน้านี้ การปลูกข้าวเบายอดม่วงมีไม่ค่อยมากสักเท่าไร่”
การปลูกจริงจังเพื่อการค้า เพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อ 2–3 ปีที่ผ่านมานี่เอง หลังจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.นครศรีธรรมราช ศึกษาวิจัยพบว่า ข้าวกล้องพันธุ์เบายอดม่วง มีปริมาณฟีนอลิก 2.45 mg Ferulic Acid/g DW และมีค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ร้อยละ 66.67
มีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง เนื่องจากสารประกอบฟีนอลิกเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการกระจายของเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อ และการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง จึงเหมาะสำหรับการนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ
ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่เลยเกิดการตื่นตัว รวมตัวกันตั้งกลุ่มนาแปลงใหญ่เพื่อปลูกข้าวเบายอดม่วงขึ้นมา 3 กลุ่ม ในพื้นที่ ต.นาพละ อ.เมือง, ต.นาวง อ.ห้วยยอด และ ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จากเดิมที่มีพื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์นี้แค่ไม่กี่สิบไร่
นอกจากมีการเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อสุขภาพพันธุ์นี้มากขึ้นแล้ว เกษตรกรคนรุ่นใหม่ยังได้เพิ่มมูลค่าข้าวด้วยการนำมาแปรรูปเป็นแป้งเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในแป้งพาสตา แป้งพิซซ่า อีกด้วย สนใจติดต่อได้ทาง FB : นี ทัศนีย์ สุขสนาน
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2541708
ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999
ทักแชท https://m.me/kasetnewstv
ไลน์ @Kasetnews หรือกด
https://line.me/ti/p/%40kasetnews
กด Like และ ติดตามเพจ
เพื่อรับข่าวสารด้านเกษตรก่อนใครได้ที่นี่
#ช่องเกษตรนิวส์ ดูได้ที่กล่อง PSI หมายเลข 72