“มะเดื่อฝรั่ง” พืชทางเลือกใหม่ ขึ้นห้างกก.พันบาท-สร้างรายได้ดี
จากที่ราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ผู้ใหญ่บ้านสาววัย 31 ปี “จอมขวัญ กองประดิษฐ์” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มองว่าหากหวังที่จะหารายได้จากการทำสวนยางพาราอย่างเดียว ครอบครัวต้องเดือดร้อนแน่นอน จึงพยายามหาช่องทางใหม่ที่จะสร้างรายได้เพิ่ม
จอมขวัญ บอกว่า ที่เลือกปลูกมะเดื่อฝรั่ง เพราะศึกษาแล้วว่าน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ จึงขอสนับสนุนสายพันธุ์จากศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลมะขามเตี้ย 3 สายพันธุ์ คือ บีทีเอ็ม6 (Btm6 สายพันธุ์ญี่ปุ่น) สายพันธุ์แบล็กแจ็ก (Blackjack) และสายพันธุ์แบล็กจีนัว (Blackjenoa)
ผลการทดลองปลูกปรากฏว่ากิ่งพันธุ์สามารถเจริญเติบโตไปได้ด้วยดีและให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีราคาแตกต่างกันไป แต่เกษตรกรทั่วไปนิยมปลูกสายพันธุ์บีทีเอ็ม6 เป็นสายพันธุ์เริ่มต้น โดยใช้เวลาปลูกประมาณ 6 เดือนก็ให้ผลผลิต
มะเดื่อฝรั่งผลสุกจะอยู่ได้ไม่นานหากขายไม่ทันต้องแปรรูปอบแห้ง ตอนนี้ผลมะเดื่อฝรั่งอบแห้งที่วางขายกันในห้างสรรพสินค้า 1 กล่องมี 7-8 ผล ราคาอยู่ที่ 299 บาท หรือกิโลกรัมละ 1,000 บาท แต่ที่ฉันปลูกไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะมีลูกค้าสั่งจองกันล่วงหน้า
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยเฉพาะปริมาณของธาตุแคลเซียม, ไม่มีธาตุโซเดียมที่เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ข้อมูลบางตำราบอกว่า ถ้าบริโภคเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคนิ่วในไต ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและช่วยฟอกตับและม้ามอีกด้วย
ข้อมูลข่าว : http://www.komchadluek.net/news/agricultural/235536
ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้และแลกเปลี่ยนเคล็ดลับ เกร็ดความรู้ทางการเกษตรได้ที่ www.kasetnews.com “คลังความรู้คู่เกษตรกร”