การปนเปื้อนของเมล็ดวัชพืช เป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกมองข้าม
ฤดูแล้งปีนี้ ใครวางแผนจะปลูกปอเทืองเป็นปุ๋ยพืชสด ลองฟังคำเตือน คุณอิทธิพล เครือจินลิ เกษตรกรปลูกอ้อย จังหวัดสระแก้ว
หลังจากที่คุณอิทธิพลไปขอรับแจกเมล็ดปอเทือง จากสถานีพัฒนาที่ดิน เพื่อปลูกในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ต่อมา เริ่มสังเกตว่ามีวัชพืชใบกว้างประเภทเถาเลื้อย ตระกูลผักบุ้ง ขึ้นปกคลุมต้นปอเทือง
คาดว่าเมล็ดวัชพืชจะติดมากับเมล็ดพันธุ์ปอเทือง เพราะไม่เคยเห็นวัชพืชชนิดนี้มาก่อน
ความตั้งใจจะปลูกปอเทืองเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ไปปลูกต่อ จึงต้องเปลี่ยนเป็นไถกลบ ก่อนวัชพืชจะออกดอก/ติดเมล็ดสะสมในดิน กลายเป็นปัญหาในแปลงฤดูต่อๆไป
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ฝนตกชุกมาก การไถกลบเพื่อกำจัดวัชพืชไม่ใช่เรื่องง่าย พบว่า ยังมีต้นวัชพืชที่แตกต้นใหม่ได้อีก
ดังนั้น จึงวางแผนว่าแปลงนี้ต้องปลูกพืชประธานใบแคบ เช่น อ้อย เพื่อจะใช้สารในกลุ่ม O ที่มีกลไกการออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนอ๊อกซิน (ได้แก่ 2,4-ดี พิคลอแรม หรือไตรโคลเพอร์ ) ซึ่งเป็นสารกำจัดวัชพืชเลือกทำลายเฉพาะพืชใบกว้าง
แต่หากจำเป็น ต้องปลูกมันสำปะหลัง ต้องกำจัดวัชพืชเถาเลื้อยนี้ให้หมดก่อนปลูกมันสำปะหลัง เพราะสาร ทุกตัวในกลุ่ม O เป็นพิษต่อมันสําปะหลัง
จึงขอฝากให้เกษตรกร เฝ้าระวังการปนเปื้อนของเมล็ดวัชพืชในเมล็ดพันธุ์ปอเทือง ด้วยการหมั่นตรวจแปลง
อย่าลืมว่า เมล็ดวัชพืชสามารถพักตัวในดินได้นานหลายปี หากปล่อยให้มีการระบาดแล้ว ก็จะระบาดมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี
เครดิตเรื่อง/ภาพ : คุณอิทธิพล เครือจินลิ
ขอบคุณที่มา : สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย /เกษตรทันข่าว.com