คุณกิติภูมิ สุขนางรอง หรือ คุณใหญ่ เจ้าของออร์แกนร่าฟาร์มเคล ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 1 ตำบลเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง พนักงานประจำดูแลแปลงผักไฮโดรโปนิกส์ ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดต่อยอดจากอาชีพเสริม ให้กลายเป็นอาชีพหลักของครอบครัว ด้วยการปลูกผักเคล
.
ปัจจุบันฟาร์มปลูกผักเคลตั้งอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง บนพื้นที่ปลูกทั้งหมดจำนวน 6 แปลง มีขนาดความกว้างของแปลง 1 เมตร ยาว 30 เมตร เน้นปลูกแบบลงดิน และปลูกในถุงหรือกระถาง เพราะการปลูกลงดินจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการปลูกพืชในน้ำหรือระบบไฮโดรโปนิกส์ ทั้งในเรื่องของต้นทุนค่าปุ๋ย ระบบการจัดการต่างๆ รวมถึงความแตกต่างของผลผลิต การปลูกลงดินจะได้ใบที่หนา มีข้อดีในเรื่องของน้ำหนัก และทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี
.
ส่วนข้อดีของการปลูกในถุงหรือในกระถาง มีข้อดีก็คือในช่วงหน้าฝนสามารถเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูงได้ง่าย ช่วยลดปัญหารากเน่าที่เกิดจากความชื้นสูงในช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี ผลผลิตไม่เสียหาย สามารถขายในราคาที่ย่อมเยากว่าการปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ที่ต้องใช้ต้นทุนที่สูง แต่ถ้าหากท่านใดมีเงินลงทุนสูงและต้องการความสะดวกสบายในการจัดการก็สามารถปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ได้อย่างสบายๆ
.
ส่วนช่วงเวลาที่ปลูกผักเคลให้ได้ผลผลิตดีที่สุด คุณใหญ่ บอกว่า เป็นช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นแต่ว่าต้องมีแดดด้วย จะส่งผลให้ใบของผักเคลเจริญเติบโตได้ดีมาก ใบหยิกสวย และมองไปที่ใบจะเห็นเป็นสีมันวาวจากสารเคลือบของคิวติน ทำให้ใบของผักเคลดูสวยขึ้น
.
ปริมาณผลผลิตเก็บตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งมา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30-40 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ขายในราคากิโลกรัมละ 200-250 บาท เมื่อเทียบกับการดูแลถือว่าคุ้มค่า เนื่องจากต้นทุนการปลูกการดูแลเราไม่สูง และเน้นการประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่จังหวัดอ่างทองได้รู้จักผักเคลและทราบถึงคุณประโยชน์ที่มากมายของผักเคลมากขึ้น จึงขายในราคาที่ไม่สูงเพื่อเปิดตลาดหาลูกค้าในอ่างทอง ซึ่งถ้าหากคิดเป็นรายได้เสริมเฉลี่ยต่อเดือนจากการปลูกผักเคลขายอยู่ที่เดือนละ 25,000-30,000 บาท
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล
“ปลูกผักเคลในถุง” เดือนครึ่งตัดขาย สร้างรายได้เสริม 25,000-30,000 บาทต่อเดือน
🔰 ปรึกษาปัญหาเกษตร 🔰
📲 แอดไลน์ @Kasetnews หรือกด 👇
▶️https://line.me/ti/p/%40kasetnew◀️
#ผักเคล#ปลูกผักเคล
ดูได้ที่กล่อง PSI 📺 หมายเลข 72
#เกษตรยุคใหม่#ข่าวเกษตร#เกษตรนิวส์