เตือนเกษตรกร ระวังโรคเน่าเละในผักตระกูลกะ หล่ำ และผักกาด

เตือนเกษตรกร ในช่วงที่ มีฝนฟ้าคะนองตกหนักบางแห่ง และมีความชื้นในอากาศสูง เกษตรกรที่ปลูกผักตระกูลกะ หล่ำ และผักกาด อาทิ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม และกวางตุ้ง ให้เตรียมรับมือในการระบาดของโรคเน่าเละ ที่สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช สำหรับโรคเน่าเละจะแสดงอาการเริ่มแรกพบบนใบหรือบริเวณลำต้นมีแผล เป็นจุดฉ่ำน้ำเล็กๆ ต่อมาแผลจะขยายลุกลามเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลไหม้ ส่วนเนื้อเยื่อพืชบริเวณแผลจะยุบตัวลง และจะมีเมือกกลิ่นเหม็นฉุนเยิ้มออกมาภายนอก จากนั้นต้นพืชจะเน่ายุบตายไปทั้งต้น โรคเน่าเละจะพบระบาดมากในช่วงฤดูฝน ซึ่งแบคทีเรียจะสามารถเข้าทำลายได้ทุกส่วนของพืชทั้งในสภาพไร่และในโรงเก็บ

Cos Lettuce on White Background

สำหรับแนวทางในการป้องกันและแก้ไข หากเริ่มพบอาการของโรคเน่า เละในแปลงปลูก ให้เกษตรกรรีบขุดต้นพืชที่เป็นโรค และเก็บเศษซากพืชส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที หลีกเลี่ยงการทำให้ส่วนต่างๆ ของพืชเกิดแผล ซึ่งแผลจะเป็นช่องทางให้เชื้อสาเหตุของโรคเข้าทำลายพืชได้ง่าย อีกทั้งเกษตรกรควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางการเกษตรต่างๆ ให้สะอาด และผึ่งแดดให้แห้งหลังการใช้งานทุกครั้งอยู่เสมอ เมื่อได้นำไปใช้กับต้นที่เป็นโรคในแปลงที่มีการระบาดก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ในครั้งต่อไป

นอกจากนี้ หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้ว เกษตรกรควรไถกลบเศษพืชผักทันที และก่อนการปลูกพืช เกษตรกรควรไถพรวนพลิกหน้าดินให้ลึกจากผิวดินเกินกว่า 20 เซนติเมตร ให้ดินได้ตากแดดไว้นานกว่า 2 สัปดาห์ และไถกลบพลิกหน้าดินอีกครั้ง เพื่อทำลายเชื้อสาเหตุของโรคที่ติดอยู่กับเศษซากพืช ช่วยลดปริมาณเชื้อในดินลงได้มาก และป้องกันการสะสมของเชื้อสาเหตุของโรคในดิน สำหรับพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน อาทิ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และข้าวโพด เป็นต้น ส่วนในฤดูปลูกถัดไป เกษตรกรควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีการระบายน้ำที่ดี และไม่เคยมีการระบาดของโรคนี้มาก่อน

ขอขอบคุณ : เกษตรทันข่าว.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *