วิธีการปลูกที่นิยมมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่
1. การปลูกฟักทองแบบหยอดเมล็ด
- ขุดหลุมเล็ก ๆ ลงไปในดินประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว
- หยอดเมล็ดฟักทองลงไปหลุมละ 3-5 เมล็ด
- กลบด้วยดินผสมละเอียด หรือขี้เถ้าแกลบดำ
- รดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟางเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าดิน
- ภายใน 3-4 วัน ต้นกล้าจะงอกพ้นพื้นดิน มีใบจริง 2-3 ใบ ให้ถอนต้นกล้าที่อ่อนแอทิ้งไป ให้เหลือหลุมละ 1 ต้นเท่านั้น
2. การปลูกฟักทองแบบเพาะกล้า
- นำเมล็ดฟักทองล้างน้ำ 1-2 รอบ แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที และห่อด้วยผ้าขาวบาง
- นำเมล็ดไปบ่มไว้ในกล่องพลาสติกใส 3-5 วัน
- เมื่อเมล็ดแตกรากออกมา จึงค่อยย้ายไปเพาะในถาดเพาะกล้า
- รดน้ำเป็นประจำ จนต้นกล้ามีใบจริง 1-2 ใบ จึงย้ายไปปลูกในแปลง
การดูแลรักษาฟักทอง
เมื่อต้นฟักทองเริ่มเจริญเติบโต ควรมีการดูแลรักษา ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน และกำจัดโรคหรือแมลงศัตรูที่อาจจะสร้างความเสียหาย ดังนี้
1. การให้ปุ๋ย
ในระยะแรกของการปลูกฟักทอง เมื่อมีอายุได้ 10-14 วัน ควรให้ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 10-15 กิโลกรัมต่อไร่ จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 ตอนต้นฟักทองมีอายุได้ 21-25 วัน โดยให้โรยข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม
2. การให้น้ำ
ฟักทองเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ ควรให้น้ำในปริมาณที่พอเหมาะ ในช่วงที่ต้นฟักทองกำลังออกดอกและติดผล ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ขาดน้ำ ระบบการให้น้ำที่ดี คือ ให้น้ำเข้าร่อง เพื่อให้น้ำซึมเข้าสู่ดินโดยตรง ไม่ควรพ่นน้ำผ่านใบของฟักทอง เพราะอาจจะทำให้ใบเปียกน้ำจนเป็นโรคเน่าได้
3. การพรวนดินและการกำจัดวัชพืช
ควรทำอย่างสม่ำเสมอตอนที่ต้นฟักทองยังเล็ก และเมื่อต้นฟักทองเริ่มโตตอนเลื้อยคลุมดินแล้ว ก็จะไม่มีวัชพืชขึ้นอีก ซึ่งก็ไม่ต้องพรวนดินอีกเช่นกัน
4. การกำจัดโรคหรือแมลงศัตรูที่อาจจะสร้างความเสียหาย
โรคที่มักเกิดกับฟักทองคือ โรคราน้ำค้าง เป็นโรคที่เกิดทางใบ มักระบาดในช่วงฤดูฝน หรือการให้น้ำแบบพ่นฝอย สามารถป้องกันได้ด้วยการไม่ให้น้ำแบบพ่นฝอย นอกจากนี้ ปัญหาแมลงศัตรูฟักทองนั้นมีไม่มากนัก เพราะใบและก้านที่มีขนช่วยในการป้องกันภัยจากแมลงได้ดี
แหล่งข้อมูล : home.kapook.com