คนกินแมลงทอดช๊อบชอบ! หนุ่มวิศวกรผันตัวเลี้ยงด้วงสาคู เลี้ยงง่าย ผลตอบแทนดี สัตว์เศรษฐกิจต่อจากจิ้งหรีด
นายปฎิญญา ดาวเด่น ที่ผันตัวเองจากเป็นวิศวกร หันมาเลี้ยงและขายด้วงสาคู ซึ่งจุดเด่นของมันก็คือ คือ เลี้ยงง่าย ระยะเวลาการเลี้ยงสั้นและต้นทุนต่ำ แต่ราคาขายค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับแมลงทอดชนิดอื่นๆ ที่สำคัญที่จังหวัดอยุธยา ยังไม่เคยมีใครเลี้ยงมาก่อน ซึ่งตนเห็นมาจากโทรทัศน์ก็เลยเริ่มศึกษาและทดลองเลี้ยงอยู่นานกว่า 2-3 เดือน ก่อนที่จะได้ผลผลิตออกไปจำหน่าย
“ตลาดแรกที่ผมนำด้วงไปวางขาย คือ ที่ตลาดนัด และที่ผมเลือกขายที่ตลาดนัด ก็เพราะเดิมผมเห็นมีพ่อค้า แม่ค้านำด้วงมาขายกันอยู่แล้ว เพราะในย่านนี้ มีโรงงานอุตสาหกรรม จะมีคนงานที่มาจากพื้นที่ในภาคอีสาน และแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้ รู้จัก และชื่นชอบการกินตัวอ่อนด้วงชนิดนี้อยู่แล้ว
จึงทำให้ขายได้ไม่ยาก ราคาขายปลีกที่ตลาดนัดตอนนั้น คือ กิโลกรัมละ 350 บาท แต่ด้วยความที่เราไม่มีเวลาไปขายตลาดนัดได้บ่อย ก็เลยเริ่มมองหาตลาดใหม่ โดยได้รู้จักกับร้านขายแมลงทอด ซึ่งรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 250 บาท ปัจจุบันช่องทางขายหลายทาง ได้แก่ ร้านแมลงทอด ที่อยุธยา ขายปลีกตลาดนัดและขายปลีกให้กับลูกค้าที่ซื้อผ่านทางหน้าเพจเฟสบุ๊ค
ส่วนขั้นตอนการเลี้ยง เริ่มจากไปซื้อพ่อแม่พันธุ์และเตรียมอุปกรณ์การเลี้ยง คือ กะละมังและขุ๋ยมะพร้าว มาผสมกับ รำข้าวและน้ำ หรือไม่ก็เป็นอาหารหมู นำมาวางไว้ในกะละมัง ถ้าเป็นที่พ่อ แม่พันธุ์ เพื่อวางไข่ก็จะวางกาบมะพร้าวแห้งไว้ด้านบน หลังจากนั้น อีก 12 วัน ก็ย้ายพ่อแม่พันธุ์ ไปวางกะละมังอื่นๆ ต่อไป การให้อาหารจะอยู่ได้ 20 วัน หลังจากนั้น ค่อยเพิ่มรำข้าว พรมน้ำและเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 25-30 วัน ก็นำออกไปจำหน่ายได้
หลังจากนั้น เริ่มเพาะเลี้ยง พ่อ แม่พันธุ์เอง ซึ่งถ้าทิ้งไว้อีก 15-20 วัน ก็จะได้ด้วงที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ โดยด้วงที่เป็นพ่อแม่พันธุ์นั้น เราจะเลี้ยงโดยใช้กล้วยสุก ซึ่งเมื่อได้พ่อแม่พันธุ์ เราก็นำมาจับคู่ โดยใส่ไว้ในกะละมัง เพื่อให้เขาผสมพันธุ์ และออกไข่ ต่อไป ในหนึ่งกะละมังใส่พ่อ แม่พันธุ์ ประมาณ 9-10 ตัว หรือ ประมาณ 5คู่ โดยพ่อแม่พันธุ์จะมีวงจรชีวิตประมาณ 60 วัน โดยพ่อแม่พันธุ์ก็จะขายกันในราคาตัวละ 10 บาท
สำหรับการลงทุนในเพาะเลี้ยงด้วงนั้นไม่ได้สูงมาก ลงทุนเพียงเครื่องบดต้นปาล์มเท่านั้น หรือ ใช้เปลือกมะพร้าว แทนก็ได้ เครื่องบดราคาประมาณ 6,000-7,000 บาท กะละมังใบละ 20 บาท อุปกรณ์อื่นๆไม่เกิน 10 บาท ส่วนรำ หรือ อาหารหมู ก็ใช้ไม่มาก เพราะให้อาหารครั้งเดียว ก็เก็บขายได้เลย แต่ด้วงจะชอบพื้นที่ไม่มีแดดและชอบอากาศชื้น ช่วงหน้าฝน น่าจะให้ผลผลิตดี
ข้อมูลข่าว : http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx…
ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้และแลกเปลี่ยนเคล็ดลับ เกร็ดความรู้ทางการเกษตรได้ที่ www.kasetnews.com “คลังความรู้คู่เกษตรกร”
#kasetnews #kasetnewsshop #เกษตรนิวส์ #ข่าวเกษตร #สินค้าเกษตร #ทำเกษตร #เกษตร #amazingthailand #ด้วงสาคู