เรื่องจริงไม่อิงนิยาย! มะเดื่อฝรั่ง พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ส่งขายตามห้างสรรพสินค้า กิโลกรัมละ 250 บาท
น.ส.อนัญญา แสงทอง อายุ 37 ปี ชาวบ้านดอนปิน ตำบลแช่ช้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เล่าให้ฟังว่า ได้หันมาทดลองปลูกมะเดื่อฝรั่งที่นำต้นกล้าพันธุ์มาจากโครงการหลวง โดยลูกในโรงเรือนแบบระบบปิด บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีจำนวน 600 ต้น ใช้ระยะเวลาการปลูกเพียง 6 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิต ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 250 บาท
ซึ่งในแต่ละวันจะเก็บผลผลิตได้มากถึง 10-20 กิโลกรัม เน้นส่งขายตามห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองเชียงใหม่จนไม่พอขาย โดยขณะนี้มะเดื่อฝรั่งกำลังเป็นที่นิยม และเป็นไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ ลักษณะคล้ายผลท้อ มีหลายพันธุ์ ทั้งพันธุ์พานาซี ฝรั่งเศส พันธุ์แบล็กแจ็ก ญี่ปุ่นและพันธุ์นอร์ทแลนด์ รับประทานผลสุกได้ทั้งเปลือก รสชาติหวาน นุ่ม ชาวต่างชาตินิยมรับประทาน
วิธีการปลูกนำต้นกล้าพันธุ์มาปลูกในกระถางซีเมนต์เพื่อควบคุมการเจริญเติบโต ให้น้ำระบบสปริงเกอร์เช้าและเย็น ผลผลิตจะออกตามลำต้น ความสูงของต้นประมาณ 3 เมตร ใช้เชือกผูกลำต้นหรือยอดกับนั่งร้าน ผลสุกจะออกสีแดงเข้ม รับประทานได้ทั้งลูก เมื่อให้ผลผลิตแต่ละรุ่นก็จะตัดลำต้นทิ้งเพื่อควบคุมความสูง หรือตอนกิ่งขายโดยราคาราคาของต้นจะตกอยู่ที่ 200-800 บาท ราคาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
ส่วนใหญ่นิยมพันธุ์แบล็กแจ็ก ญี่ปุ่น การปลูกควรปลูกระบบปิดในโรงเรือนจะดีกว่า เพราะป้องกันแมลงวันทอง ส่วนระยะต้นห่างกันประมาณ 1 เมตร แต่ละฤดูกาลสร้างรายได้เป็นอย่างดี โดยแต่ละต้นจะให้ผลผลิตมากกว่า 100 ลูก ซึ่งแต่ละฤดูกาลสามารถเก็บผลผลิตได้ 2-3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคมและส่งขายขึ้นห้างสรรพสินค้ากันอย่างเป็นล่ำเป็นสันอีกด้วย
ข้อมูลข่าว : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx…
ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้และแลกเปลี่ยนเคล็ดลับ เกร็ดความรู้ทางการเกษตรได้ที่ www.kasetnews.com “คลังความรู้คู่เกษตรกร”
#kasetnews #kasetnewsshop #เกษตรนิวส์ #ข่าวเกษตร #สินค้าเกษตร#ทำเกษตร #เกษตร #amazingthailand #มะเดื่อฝรั่ง